เคล็ดลับ ไม่ให้กินเกินไป ช่วงลดน้ำหนัก

เคล็ดลับ ไม่ให้กินเกินไป ช่วงลดน้ำหนัก

ปัญหา “กินเกิน” เป็นปัญหาหนักใจของสาวๆ หลายคนใช่ไหมครับบางคนบอกว่า “เมื่อก่อนไม่กินเยอะขนาดนี้ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ฟาดเรียบ” “พอได้กินแล้วหยุดไม่ได้” “แกะขนมแล้วต้องกินให้หมดถุง” โดยเฉพาะคนที่กำลังลดความอ้วนคงจะกลุ้มใจกับปัญหานี้มากนะครับ แล้วรู้ไหมครับว่าสาเหตุที่ทำให้เรา “กินเกิน” มาจากอะไร ?

สาเหตุที่ทำให้เรา “กินเกิน” มาจากอะไร ?

ก่อนมีประจำเดือน

เหตุผลส่วนใหญ่เป็นเพราะช่วงก่อนมีประจำเดือน สาวๆ จะหิวมากกว่าปกติครับ รอบเดือนจะถูกกำหนดด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ประเภทคือ Estrogen ซึ่งจะหลั่งช่วงหมดประจำเดือนจนถึงช่วงตกไข่ และ Progesterone ซึ่งจะหลั่งช่วงตกไข่ จนถึงช่วงก่อนมีประจำเดือนในรอบถัดไป ฮอร์โมน

Progenterone จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม เพราะฮอร์โมนนี้จะเข้าใจว่า สาวๆ กำลังตั้งครรภ์ และตั้งใจจะเก็บสะสมสารอาหารปริมาณมากไว้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ร่างกายเลยหิวมากกว่าปกติครับ

สำหรับคนที่อยู่ในช่วงลดความอ้วน อาจจะคิดว่าความสามารถของร่างกายนี้ไม่มีประโยชน์ แต่สำหรับคนท้องแล้ว จะถือว่าสำคัญมากเพราะจะต้องเก็บสารอาหารไว้ให้ลูกในท้องอีกคนครับ จริงอยูว่าช่วงมีประจำเดือนสาวๆ จะหิวกว่าปกติ แต่น้ำหนักที่เพิ่มก็ไม่ได้มาจากอาหารที่กินเข้าไปอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับน้ำที่ดื่มเข้าไปด้วยครับ

ฮอร์โมน Progesterone ยังดูดเก็บน้ำจากกระเพาะเข้าสู่งร่างกายมากกว่าปกติ ทำให้การขับน้ำออกจากร่างกายน้อยลง เป็นเหตุให้ช่วงมีประจำเดือนนอกจากน้ำหนักจะขึ้นแล้ว ยังมีอาการบวมน้ำ และท้องผูกร่วมด้วยครับ

วิธีแก้ปัญหา

เป็นเพราะระดับน้ำตาลในเลือดลดลง จึงทำให้เราหิว ดังนั้นลดควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไว้ให้คงที่ หรือไม่ก็ไม่ควรลดลงอย่างรวดเร็ว วิธีที่ง่ายที่สุดคือเพิ่มจำนวนมื้ออาหาร ใน 1 วันควรแบ่งออกเป็นมื้อย่อย 5 มื้อ โดยเพิ่มของว่างระหว่างมื้อเช้ากับกลางวัน และระหว่างมื้อกลางวันกับมื้อเย็นเข้าไปด้วย จะทำให้ร่างกายอิ่มตลอด ส่วนเรื่องปริมาณก็ไม่ยากครับ เพิ่มเป็น 1.5 เท่าของปริมาณปกติ แล้วแบ่งเป็น 5 มื้อเท่าๆ กันครับ ยิ่งถ้าเปลี่ยนจากข้าวสวยธรรมดา เป็นข้าวกล้องจะยิ่งดีครับ

ความเครียด

ความเครียด

ความเครียดก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรากินมากครับ โดยเฉพาะคนที่ทำงานแล้ว เหตุการณ์ที่ทำให้เครียดจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่มความเครียดหนัก เช่น คนใกล้ตัว ญาติ หรือคนรู้จักเสียชีวิต, อกหัก หรือทำของสำคัญหาย

ส่วนอีกกลุ่มคือ กลุ่มความเครียดไม่หนัก แต่ส่งผลระยะยาว เช่น ความเครียดเรื่องงาน และเรื่องความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นต้น พอเราได้ทำงานก็จะมีทั้งหัวหน้างาน และลูกน้องเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งมีปัญหาเรื่องงาน หรือทะเลาะกันก็จะทำให้เครียดมากขึ้นครับ

ความเครียดที่เกิดจากงาน มักจะมีมาตลอดและแก้ไม่หาย ตราบใดที่เรายังทำงานอยู่ที่นั้นๆ ความเครียดก็จะมาเป็นระยะๆ ครับ และคนส่วนใหญ่มักคลายเครียดด้วยการกิน หรือออกไปสังสรรค์กับเพื่อน โดยเฉพาะคนที่ชอบกินของหวานอยู่แล้ว เวลาเครียดร่างกายมักไ้ด้รับน้ำตาลมากเกินไปครับ

วิธีแก้ปัญหา

วิธีแก้ปัญหานี้ที่ดีที่สุดคือกำจัดความเครียดที่เป็นต้นเหตุให้หมดไป แต่มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ดังนั้นการทำให้สภาพแวดล้อมช่วยผ่อนคลายหรือคลายเครียดจึงพอทดแทนกันได้ เช่น หางานอดิเรกทำ หรือไปเดินเล่นตามสถานที่ธรรมชาติ จากผลวิจัยพบว่าการไปเดินเล่นตามป่า หรือท่องเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติ จะช่วยผ่อนคลายเราจากความเครียดได้ แม้จะไม่ต้องไปเดินป่าเป็นงานอดิเรก แต่แค่วันหยุดได้ไปเที่ยวตาม น้ำตก, อุทยานแห่งชาติบ้างก็ได้ครับ

ความรู้สึกผิด

ความรู้สึกผิด

สาเหตุนี้คือคนที่เข้มงวดกับตัวเองมาก กินอาหารเมื่อไหร่จะต้องคำนวณแคลอรี บอกตัวเองเสมอว่าห้ามกินเกิน กินมากคืออ้วน กินน้ำมากก็บวมน้ำ คนที่เข้มงวดกับตัวเองเรื่องการกินนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามันมากเกินไป อาจส่งผลเสียกับตัวเองทำให้ยิ่งกินมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ครับ

คนกลุ่มนี้จะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ มักจะงดขนม หรือควบคุมปริมาณอาหารเป็นเวลาหลายวันถึง 3 สัปดาห์ พยายามไม่กินของที่ชอบ ทำให้เกิดความเครียดจนไม่อยากกินอะไร จากนั้นจะทำให้เราหิวจัด อยากกินอะไรมากๆ ในครั้งเดียว เช่น กินขนมปังหมดทั้งแถวในครั้งเดียว, กินขนมตั้งแต่เช้าถึงเย็น หรือแม้จะกินจนอิ่มแล้วแต่ก็ยังกินต่อได้อยู่ สาเหตุเป็นเพราะสมองไม่สั่งการให้อิ่มนั่นเอง พอสมองไม่สั่ง แม้ท้องจะอิ่ม แต่ก็ยังกินได้เรื่อยๆ อยู่

วิธีแก้ปัญหา

คนประเภทนี้ ไม่ควรงดอาหารที่อยากกินจนเกินไป แต่กินสิ่งที่อยากกินในปริมาณที่เหมาะสม และออกกำลังกายจะได้ผมดีที่สุดครับ

จริงอยู่ว่า ไม่ควรกินอาหารมื้อดึก ไม่ควรกินขนมแทนข้าว ในช่วงลดความอ้วน แต่การกินของหรือขนมที่อยากกินในปริมาณที่เหมาะสม และออกกำลังกายในส่วนที่กินเกินมา ก็จะช่วยลดภาระให้ร่างกาย เราก็จะสามารถลดความอ้วนได้อย่างต่อเนื่องครับ ความจริงแล้ว “การงดอาหาร” เป็นศัตรูของการลดความอ้วนต่างหากครับ

กินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป

น้อยคนที่จะรู้สึกตัว แต่นี่คือสาเหตุหนึ่งครับ คนที่ชอบกินอาหารที่มีแต่คาร์โบไฮเดรต เช่น มื้อเช้ากินขนมปัง มื้อกลางวันกินพาสต้า และมื้อเย็นกินข้าวหน้าเนื้อ มักจะอ้วนกว่าคนที่กินโปรตีนหรือผักเป็นหลัก

สาเหตุเป็นเพราะคาร์โบไฮเดรตจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในตอนแรกระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นจะทำเดี๋ยวก็หิว เดี่ยวก็อิ่ม ทำให้ต้องกินบ่อยๆ ปริมาณแคลอรีโดยรวมต่อวันจึงเกินนั่นเอง

วิธีแก้ปัญหา

วิธีแก้ปัญหานี้ง่ายมากคือ การกินอาหารทุกมื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าด้วยอาหารหลัก ไม่ใช่แค่ขนมปังอย่างเดียว ควรกินให้ครบทั้งคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน และผัก วิธีสังเกตอีกอย่างคือจดว่าในแต่ละวันเรากินอะไรเข้าไปบ้างตลอด 1 สัปดาห์ แล้วเราก็จะรู้ว่ากินคาร์โบไฮเดรตมากไปหรือไม่

สรุปครับ

สาเหตุ 4 ข้อที่ผมแนะนำไป เป็นสาเหตุที่ทำให้เรากินเกิน ดังนั้นถ้าเรารู้สึกตัวว่าหิวมากกว่าปกติ เราจะต้องมี 1 ใน 4 ข้อนี้แน่ๆ พอรู้สาเหตุที่แท้จริงแล้วเราก็จะหาทางแก้ไขได้ถูกต้องครับ

เคล็ดลับ ไม่ให้กินเกินไป ช่วงลดน้ำหนัก
บอบคุนที่กดLike
เคล็ดลับ ไม่ให้กินเกินไป ช่วงลดน้ำหนัก

นักเขียน

HIRO(อีโร่)
ผมเป็นคนญี่ปุ่น ตอนเรียนปริญญาโท ผมเคยเรียนหลักสูตรโภชนาการศาสตร์ จึงอยากนำความรู้ที่ได้มาแบ่งปันและอยากแนะนำวิธีได้เอทที่ถูกให้ผู้หญิงที่อยากผอมแล้วสวยครับ
Follow :