วิธีนี้（ลดความอ้วนด้วยการเคี้ยว）มีอยู่จริงครับ ความจริงแล้วไม่ใช่วิธีที่ยุ่งยาก และซับซ้อนอะไร แต่เป็นแค่การใช้เวลากับการกินให้มากขึ้นหน่อยเท่านั้นเอง เป็นวิธีที่ไม่เปลืองเงิน สนุกกับการกิน และสิ่งที่เรากินได้ 

สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ “กินอะไร”

สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ “กินอะไร” แต่ต้องรู้ด้วยว่าสิ่งที่กินเข้าไปนั้น ร่างกายดูดซึมแล้วนำไปใช้งานได้มากแค่ไหน หากคุณกินแต่ของดีๆ มีประโยชน์แต่ร่างกายดูดซึม และนำไปใช้ได้ไม่มากพอก็ไม่มีประโยชน์ 

สิ่งที่จะช่วยให้ร่างกายดูดซึม และนำสารอาหารจากสิ่งที่กินเข้าไป ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ “การเคี้ยว” การเคี้ยวอาหารส่งผลโดยตรงต่อการการย่อย และการดูดซึมสารอาหาร และเรื่องสุขภาพด้วยครับ 

การย่อยเริ่มตั้งแต่ในปาก

คำถามที่ว่า “ทำไมต้องเคี้ยว” ตอบแบบไม่ต้องอิงหลักการใดๆ เลยนะครับ “เดี๋ยวมันจะติดคอ” แต่รู้กันหรือไม่ครับว่าการเคี้ยวนั้น มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

การเคี้ยวข้าวหรือสิ่งที่กินเข้าไปให้ละเอียดก่อนกลืนจะช่วยทำให้มีปริมาตรเพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นเอ็นไซม์ และก็เกิดกระบวนการย่อย แตกตัว และดูดซึมตั้งแต่ในปากครับ

ในน้ำลายมีเอ็นไซม์ชื่อ อะไมเลส ที่ช่วยย่อยไขมัน ถ้าเคี้ยวดีๆ ไขมันในอาหารจะแตกตัวก่อนที่จะไปถึงกระเพาะ หากไขมันไม่แตกตัวก่อนไปถึงกระเพาะ จะส่งผลเสียต่ออวัยวะย่อยอาหาร และลำไส้ ยิ่งอาหารอยู่ในปากนาน ผสมกับน้ำลายนาน ก็จะยิ่งทำให้อาหารไหลไปหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น 

น้ำลายยังมีหน้าที่ในการย่อยแป้งอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการให้น้ำลายทำงานได้อย่างเต็มที่ ระบบการย่อย การดูดซึมเป็นปกติ จะต้องเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ให้นานก่อนกลืนลงไป

การเคี้ยวเกี่ยวข้องกับพลังงาน

พลังงานในที่นี้หมายถึง พลังงานที่ร่างกายได้รับ จากการวิจัยหลายๆ สถาบันพบว่า หากกินข้าวโดยไม่ค่อยเคี้ยว จะทำให้อ้วนง่าย และคนอ้วนส่วนใหญ่ก็มักจะกินข้าวเร็ว โดยไม่ค่อยเคี้ยว

กินข้าวแต่ละมื้อลดแคลอรีได้ 12-15%

วิธีนี้ทำได้ด้วยการเคี้ยวครับ จากผลการวิจัยของประเทศจีนทดลองให้ ผู้ชายวัยรุ่น 30 คน (คนผอม 16 คน คนอ้วน 14 คน) กินอาหารในปริมาณเท่ากัน แต่แบ่งเป็นสองทีม คือทีมที่เคี้ยว 15 ครั้ง กับทีมที่เคี้ยว 40 ครั้ง ปรากฏว่า ไม่ว่าจะคนผอมหรือคนอ้วน กลุ่มที่เคี้ยวมากกว่า ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารน้อยกว่าอีกกลุ่ม 12% และกลุ่มที่เคี้ยวมากกว่ายังอิ่มนานกว่าอีกด้วยครับ

ในอเมริกามีการทดลองให้ชายและหญิงอายุตั้งแต่ 18-45 ปี จำนวน 45 คน กินพิซซ่า แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกำหนดให้จำนวนครั้งในการเคี้ยวมากกว่าปกติ 1.5 เท่า และเคี้ยวมากกว่าปกติ 2 เท่า ปรากฏว่า พลังงานที่ได้จากการเคี้ยวมากกว่าปกติ 1.5 และ 2 เท่า ลดลง 9.5% และ 14.8% ตามลำดับ

การเคี้ยวนานๆ จะทำให้สมองรับรู้สัญญาณ”อิ่ม” ได้ง่าย  หลังจากที่กินอาหารเข้าไป ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 20-40 นาที ให้ฮอร์โมนที่กระตุ้นความรู้สึกอิ่มส่งสัญญาณไปที่สมอง ดังนั้นคนที่กินเร็วกว่าจนไม่ค่อยรู้สึกอิ่มสักทีทำให้กินมากกว่าคนที่กินช้า

สมมติว่า 1 มื้อ ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหาร 600 kcal การเคี้ยวช่วยลดพลังงานลงได้ 15% เท่ากับ 90 kcal หนึ่งวันกิน 3 มื้อ เท่ากับ 270 kcal  หากต้องการลดน้ำหนักในหนึ่งเดือนให้ได้ 1 กิโลกรัม ก็ต้องลดพลังงานลง 7200 kcal หากใช้วิธีเคี้ยวอาหารให้นานขึ้น มากขึ้นจะต้องใช้เวลา 27 วัน (คิดตามทฤษฎีครับ ความจริงยังมีเรื่องชนิดของอาหาร และอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ผลลัพธ์อาจมีความคลาดเคลื่อน)

ลองทดลองดูได้นะครับ ใครที่เริ่มรู้สึกว่าน้ำหนักขึ้น ลองเปลี่ยนวิธีกินข้าวโดยเคี้ยวให้มากกว่าปกติ เฉลี่ย 40 ครั้งต่อคำ